ประโยคในต้นเนื้อหานี้เรานำมาจากคำพูดของ ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ประจำสาขาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ ในเหตุการณ์ที่เกิดกับนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) ที่หลายคนน่าจะทราบเรื่องราวจากวิดีโอที่ถูกแชร์ต่อและเป็นข่าวดังในเวลาไม่กี่ชั่วโมงในประเทศไทย
ผู้เขียนรู้สึกติดใจกับประโยคดังกล่าวของอาจารย์ทัศนัย ผู้เข้ามาช่วยเหลือนักศึกษาของเขาในการปกป้องผลงาน ปกป้องเยาวชนนักศึกษา และที่สำคัญที่สุดคือปกป้องเสรีภาพอันหลงเหลืออยู่น้อยนิดในประเทศนี้
งานศิลปะนั้นถูกถกเถียงกันมาตลอดหลายปีของโลกใบนี้ ตัวผู้เขียนเองก็ไม่ได้ร่ำเรียนมาในสายที่เกี่ยวข้องกับงานศิลป์แต่อย่างใด แต่ก็ได้รับรู้คุณค่าของสิ่งนี้ บวกกับความเปลี่ยนแปลงไปของสังคมโลกที่ทำให้ผลงานหลายชิ้นหลายประเภทถูกตั้งคำถาม
สำหรับมุมมองผู้เขียนนั้นคิดว่า หากเราคิดสร้างสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมาด้วยเป้าหมายที่อยากแสดงออกในความคิดของเรา สิ่งนั้นก็เรียกว่าเป็นศิลปะแล้ว ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องกังวลในความผิดถูกชอบชั่วดีในผลงาน เพราะหลังจากที่คุณได้ใช้เสรีภาพที่คุณพึงมีเพื่อถ่ายทอดอะไรสักอย่างนึงออกมาผ่านผลงานของคุณ หลังจากนั้นจะเป็นมุมมองของคนที่ได้เห็นผลงานนั้น ที่จะมองงานชิ้นนั้นอย่างไร
บทเพลงหลายบทเพลงสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อโลก ต่อสังคม หรือแม้กับกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ทั้งหมดนั้นก็เป็นผลของงานศิลปะ ไม่ว่าจะมีคนเห็นมันมากหรือน้อย มียอดวิวยอดฟังเป็นร้อยหรือเป็นล้าน หากคนที่ทำงานนี้ได้ใช้ความเป็นศิลปินของตัวเอง ระบายสิ่งในใจออกมาผ่านผลงาน นั่นก็คืองานศิลปะ
ในวงการเพลงฮิปฮอปเองก็มีการถกเถียงกันมากมายว่าหลายผลงานนั้นมีคุณค่าอะไรหรือไม่ เป็นงานศิลปะหรือไม่ เป็นฮิปฮอปจริงๆ หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ถกเถียงกันอีกกี่ร้อยปีก็ไม่มีวันจบ ผลงานที่ถูกถ่ายทอดออกมาแล้วก็ย่อมผ่านการคิดในช่วงเวลานั้นมาแล้ว ใครจะตัดสินอะไรกับผลงานนั้นก็เป็นสิ่งที่จะตามมาเป็นปกติ
ถึงน้องนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ถูกทำลายผลงานไปนั้น ในสถานการณ์นั้นเองใครก็ย่อมไม่พอใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่มันยิ่งทำให้เราเห็นพลังของงานศิลปะ พลังที่จะทำให้คนกลุ่มนึงนึกกลัวในเสรีภาพของมนุษย์ พลังที่จะสร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการการศึกษา และพลังนี้ทำให้เราเห็นคนแบบอาจารย์ทัศนัย ที่เป็นผู้ให้ เป็นอาจารย์ที่น่าเคารพ ผู้ยังกล้ายืนหยัดบนถนนแห่งเสรีภาพในการแสดงออก
ศิลปะไม่เป็นเจ้านายใคร และไม่เป็นขี้ข้าใคร คำนี้จะส่งผลกับคุณอย่างไรก็สุดแล้วแต่สมองของคุณจะคิด แต่หากคุณเป็นคนที่เคารพในศิลปะ เรากำลังยืนอยู่บนถนนเส้นเดียวกัน