การแข่งขัน Rap is Now The War Is On 3 ที่ดำเนินมากว่า 1 ปีเต็ม นับจากเวทีแรกที่จังหวัดอุดรธานี สู่เวทีสุดท้ายที่เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะในศึก The War Is Over 3 ซึ่งจัดตรงกันในวันที่ 20 สิงหาคมพอดีเป๊ะ และผู้ชนะหนึ่งเดียวจาก 1,144 คลิปที่ส่งเข้าออดิชั่น ก็คือ OAK หนุ่มหน้าใหม่จากนครปฐม ซึ่งเข้าไปชิงชนะเลิศกับ KQ แร็พเปอร์สายกลอนจากเชียงรายผู้ที่อยู่ในวงการมาตั้งแต่ยุคเว็บบอร์ด
การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศนั้นแบทเทิลกันได้อย่างสูสีทั้งสองรอบ จนต้องมาตัดสินผู้แพ้ชนะกันด้วยรอบที่ 3 ซึ่งก็เป็น OAK ที่เอาชนะไปด้วยเสียงเฮอันดังกระหึ่ม ด้วยการเตรียมตัวที่เหนือกว่าและคงเส้นคงวาตลอดการแร็พ ในขณะที่ KQ มีลูกเล่นกลอนแปดในรอบที่ 2 แต่กลับมาแผ่วและยอมแพ้ด้วยไรห์มน่ารักๆ สไตล์ของเค้าที่ว่า “KQ ไปล่ะเว้ย” นั่นก็ทำให้ OAK กลายเป็นแร็พเปอร์หน้าใหม่ที่มีประสบการณ์ดั่ง Rookie เพราะไม่เคยแข่งเวทีไหนมาก่อน แต่กลับมาคว้าถ้วยรางวัลนิ้วกลางของรายการ The War Is On ไปครองได้สำเร็จ พร้อมรับเงินรางวัลไป 50,000 บาท ส่วนรองแชมป์ก็ไม้น้อยหน้าด้วยเงินรางวัล 25,000 บาท
สำหรับคู่ชิงที่ 3 เป็นการวัดกันระหว่างแร็พเปอร์รุ่นเก่าที่คุ้นชื่อกันมาตั้งแต่สมัยออดิโอแบทเทิลอย่าง Torded และ P-Hot โดยคู่นี้มีเวลาเตรียมตัวค่อนข้างน้อยจากการแพ้ในรอบรองชนะเลิศ ก็ต้องขึ้นแบทเทิลต่อทันทีในอีกครึ่งชั่วโมงถัดมา แต่ก็ยังมีลูกไม้เด็ดๆ ในไรห์มที่งัดกันมาสดๆ เรียกเสียงเฮจากคนดูได้ไม่น้อย และเป็นฝ่าย Torded ที่เอาชนะ P-Hot ไปได้อย่างเอกฉันท์ คว้ารางวัลที่ 3 ไปครองรับเงินรางวัล 15,000 บาท ส่วนอันดับที่ P-Hot รับไป 10,000 บาท
เรามาสรุปเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในงานวันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมากันดีกว่าว่ามีอะไรเจ๋งๆ เกิดข้ึนบ้าง เริ่มตั้งแต่เปิดงานกันเลย สิ่งแรกที่ผู้ชมจะได้รับฟังคือเสียงเพลงจากดีเจ โดยงานนี้ได้ Posneg ดีเจสายโปรดิวเซอร์วัย 18 ปี ที่มีผลงานเพลงอยู่กับ Zquad Records และยังออกโชว์กับวง Miraculous อีกด้วย ซึ่งหนุ่มน้อยคนนี้ก็กระตุ้นอารมณ์คนดูซะอยู่หมัดด้วยเพลงสไตล์ electronic trap hip-hop ชวนให้โยกหัวกันก่อนจะเริ่มงาน
ก่อนจะเปิดแบทเทิลเราก็มีการมอบถ้วยรางวัลใหม่ให้กับสองแชมป์เก่า MC-King และ Repaze ถัดจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงแบทเทิล เริ่มจากคู่พิเศษ The Ultimate Match ที่เป็นการนำสองแร็พเปอร์ที่ตกรอบจากรอบ 8ALIVE กลับมาซัดกันบนเวที จึงเป็นที่มาของคู่เดือด Pee Clock vs Hassadin ที่ไม่ทำให้คนดูผิดหวัง เมื่อทั้งคู่งัดอารมณ์เดือดขึ้นมาซัดกันแบบร้อนระอุ จนพิธีกรทั้งสอง 1-Flow และ Nazesus ต้องรีบเข้ามาห้ามทัพอย่างด่วน และเมื่อจบการแบทเทิลทั้งสองรอบไป พวกเราก็เบาใจไปหน่อย เมื่อ Hassadin ที่ถอดเสื้อขว้างทิ้งไปตอนไหนไม่รู้ ก็เข้าไปกอด Pee Clock และขอโทษกันไปตามระเบียบ ซึ่งตามปกติคู่นี้จะไม่มีการตัดสิน แต่การแข่งขันวันนี้ทาง Rap is Now ได้นำเครื่องวัดเดซิเบลมาเป็นอุปกรณ์ในการตัดสิน จึงลองใช้กันตั้งแต่คู่นี้เลย และผลก็เป็น Hassadin ที่เฉือนชนะด้วยเสียงเชียร์ไปได้
ต่อเนื่องกับคู่แข่งขันจริง ในรอบรองชนะเลิศคู่แรกเป็นการพบกันของ P-Hot กับ Oak ซึ่งเกมการแบทเทิลก็ดุเดือดเลือดพล่านแต่ด้วยจังหวะและความหนักของคำก็เป็น Oak ที่ผ่านไปได้แบบไม่ยากเย็นนัก ในขณะที่คู่ที่สอง Torded เจอกับ KQ ต้องบอกว่าเป็นการปะทะที่คาดเดาไม่ออก และเมื่อจบสองรอบของการแบทเทิลก็ต้องบอกว่า ความหนักหน่วงและอารมณ์ร่วมของทั้งคู่นั้นสูสีมากๆ และสุดท้ายก็เป็น KQ ที่เฉือนไปด้วยตัวเลขเดซิเบลที่ชนะฉิวเฉียดจริงๆ และได้เข้าไปชิงกับ Oak ในที่สุด
ถัดจากนั้นเป็นช่วงพักเบรกคู่แข่งขัน จึงเป็นคิวของคู่พิเศษของเล่นใหม่ของรายการอย่าง The Mask Rapper ที่จับแร็พเปอร์สองคนมาใส่หน้ากากแบทเทิลกัน ซึ่งคู่นี้ก็มาในสไตล์โอลด์สคูล แร็พกันแบบเก๋าๆ มีลูกเล่นในไรห์มอย่างมีเอกลักษณ์ และเมื่อเราขอเสียงให้คนดูทายว่าสองคนนี้เป็นใคร ก็มีคำตอบที่ถูกต้องตะโกนออกมาอย่างชัดเจน และทั้งคู่ก็คือ Protozua อดีตแชมป์ Rap is Now North East Jammin’ กับ CP Sming แร็พเปอร์ใต้ดินตัวเก๋าที่เคยขึ้นแบทเทิลเวทีใหญ่อย่าง Battle of The Year มาแล้ว
ตัดกลับมาก็เป็นการแข่งขันคู่ชิงที่ 3 ที่ผลออกมาเป็น Torded เอาชนะ P-Hot ไปได้ และก่อนที่จะไปต่อกับคู่ชิง เราก็ไปชมโชว์มันส์ๆ จากเหล่ารุ่นใหม่ Zero To Hero Squad ที่รวม 28 ศิลปินมาเล่นเมดเล่ย์โชว์ต่อเนื่อง ซึ่งโชว์นี้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมากๆ เพราะพวกเค้าเป็นคลื่นลูกใหม่ที่กำลังมาแรงและมีผลงานเพลงฮิตให้ติดตาม โชว์นี้จึงมีชื่อว่า The 1 Million Hitz
บรรยากาศของโชว์ออกมาสวยงามมากๆ เมื่อผู้ชมเห็นเหล่าศิลปินแร็พเปอร์ที่กำลังมาแรง ได้มาขึ้นเวทีเดียวกันในโชว์เดียวกัน แบบรวมมิตรทุกสไตล์ของเพลงแร็พมาครบเลย และได้ Posneg โปรดิวเซอร์ดีเจหนึ่งเดียวเป็นคนบรรเลงความมันส์ ส่วนแร็พเปอร์ก็ไล่ตั้งแต่ MC-King, Mike Sick Flow, Darkface, P$J, Nachot, GT, Halibavg, Way-G, King Aglet, Pratyamic, LVRK, Maiyarap, Blacksheeprr, Jonn, YOUNGOHM, FIIXD, Zeesky, Ben Bizzy, UFO, T-Biggest, NICECNX, FXRD, 8Botsboyz, Ngaz, Jahman, Lilice และ Repaze ที่นำเพลงฮิตมาใส่กันสุดๆ บนเวทีแบบแก๊งๆ เลย
มาถึงโชว์เฮดไลน์ของงานนี้ที่โปรโมทอย่างยิ่งใหญ่ Fucking Hero & The Darkest Romance x P.O.N.R & Special Guests ที่เริ่มเปิดตัวขึ้นมาก็ไฟพุ่งพล่านกันเลย ด้วยวงปาร์ตี้แก๊งอย่าง P.O.N.R ที่บิ้วอารมณ์คนดูให้ตื่นตัวด้วยบีทมันส์ๆ ชวนโดด ก่อนที่พี่กอล์ฟจะก้าวขึ้นเวทีอย่างฮีโร่ หลังจากทั้งฮอลล์ก็ร้องและโยกโบกไม้โบกมือตลอดชั่วโมงกว่า ที่สำคัญยังได้เห็นแขกรับเชิญมากมายขึ้นมาแจมบนเวที ตั้งแต่ Chom Chumkasian, PP’Dreams, FIIXD, VKL, YOUNGOHM, Liberate P, Nazesus และ เต๋า Sweet Mullet
ตลอดโชว์ของพี่กอล์ฟ เราได้เห็นความเป็นอาชีพของจริง ทั้งการคุมคนดูชวนให้โยก ยกมือ และขอเสียงเฮ ทุกคนก็ทำพร้อมกันอย่างไม่มีขัดข้อง อีกทั้งการพูดเข้าเพลงล้วนมีความหมาย ส่งต่อถึงเนื้อหาเพลงที่ถ่ายทอดออกมาด้วยดนตรีสด กับวงร็อคเมทัลสุดมันส์ The Darkest Romance ที่ยิ่งดึงพลังให้ทุกๆ เพลงนั้นเดือดขึ้นไปอีก ในขณะที่บางเพลงก็ดึงอารมณ์คนดูได้อย่างตรึงใจ อาทิ ราตรีสวัสดิ์, ชูใจ และอีกสิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือวงมอชพิทหน้าเวที ที่มีกลุ่มคนดูโซน Ringside และ Regular แบ่งกันเป็นสองฝั่งแล้วพุ่งเข้าใส่กันในหลายๆ ช่วงของโชว์ โดยเฉพาะเพลงแจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ที่ได้สายเมทัลอย่างพี่เต๋า Sweet Mullet มาช่วยระเบิดอารมณ์อีกด้วย และมาปิดท้ายกันที่เพลง In The End ที่เป็นเสมือนการรำลึกให้กับการจากไปของ Chester Bennington อีกด้วย ซึ่งเราได้เห็นภาพคนดูทั้งฮอลล์ยกมือถือเปิดไฟแล้วโบกช้าๆ พร้อมๆ กันเป็นภาพที่สวยงามมากๆ
และสุดท้ายเราก็มาถึงคู่ชิงชนะเลิศที่กล่าวถึงกันไปในตอนต้นบทความนี้แล้ว ซึ่งในมุมมองของผู้จัดงานอย่างเราก็รู้สึกว่ามันสนุกและตื่นเต้นตลอดทุกโชว์ มีอะไรมาให้ลุ้นและเรียกเสียงเฮจากคนดูได้ตลอด ภาพที่ออกมาก็ยิ่งใหญ่สมเป็นเวทีสุดท้ายของศึก The War Is Over 3 และโชว์ต่างๆ ของศิลปินก็จัดเต็มกันจนคุ้มค่าบัตรสุดๆ และสำหรับการแข่งขันที่กินเวลามา 1 ปีเต็มๆ ก็จบลงไปอย่างสวยงาม หลังจากนี้เราก็จะพักสำหรับการแข่งขันใหญ่ไปก่อน ซึ่งจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างหลังจากนี้ ต้องขอให้ติดตามกันต่อไป และขอบคุณผู้สนับสนุนทุกคน ทั้งสปอนเซอร์ คนดูงานสด คนดูทางออนไลน์ สื่อมวลชน จนถึงทีมงานที่เกี่ยวข้องทุกส่วน ที่ทำให้เกิดงานยิ่งใหญ่ครั้งนี้ได้ RESPECT